สมเด็จพระราชาธิบดี อัลมูตัสสิมู บิลลาฮี มูฮิบบุดดิน ตวนกู อัลฮัจญ์ อับดุล ฮาลิม มูอัซซัม ชาห์ อิบนี อัลมาฮูม สุลต่าน บาดลิชาห์ ทรงเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียลำดับที่ 5 และ 14 และสุลต่านแห่งรัฐเกดะห์ พระองค์ปัจจุบัน
สมเด็จพระราชาธิบดี อัลมูตัสสิมู บิลลาฮี มูฮิบบุดดิน ตวนกู อัลฮัจญ์ อับดุล ฮาลิม มูฮัซซัม ชาห์ อิบนี อัลมาฮูม สุลต่าน บาดลิชาห์ หรือสุลต่านตวนกู อับดุล ฮาลิม สุลต่านแห่งรัฐเคดะห์องค์ที่ 27 พระราชสมภพเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2470 ณ พระราชวังแห่งอลอร์สตาร์ เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ พระองค์เป็นพระราชโอรสของ Sultan Badlishah สุลต่านแห่งรัฐเคดะห์องค์ที่ 26 (1943–1958) และพระมารดา Tunku Sofiah binti Tunku Mahmud ผู้สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุก่อนที่พระราชบิดาจะขึ้นครองราชย์
พระราชบิดา Sultan Badlishah เป็นพระราชโอรสของ Sultan Abdul Hamid Halim Shah (1881–1943) สุลต่านแห่งรัฐเคดะห์องค์ที่ 25 อดีตเจ้าพระยาไทรบุรี และอดีตข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลเกดะห์ (ไทรบุรี) ของประเทศไทย ก่อนที่จะเปลี่ยนไปอยู่ในความปกครองของประเทศอังกฤษและมาเป็นสหพันธรัฐมาลายูและสหพันธรัฐมาเลเซียตามลำดับ พระราชบิดา Sultan Badlishah พระราชสมภพที่เมืองไทรบุรีสมัยที่ยังเป็นของราชอาณาจักรไทย เคยมาศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนราชวิทยาลัยสายสวลี แล้วรับราชการในประเทศไทยอยู่ช่วงหนึ่งที่พระคลังข้างที่และกระทรวงมหาดไทย ก่อนที่จะย้ายไปรับราชการที่ประเทศมาเลย์เซียและแต่งงานกับพระมารดาผู้เป็นหญิงไทยถือกำเนิดเกิดในเมืองเคดะห์
พระอัยกา Sultan Abdul Hamid Halim Shah มีบุตรหลายคน บุตรชายอีกคนหนึ่งคือ ตนกู อับดุล ราห์มาน (Tunku Abdul Rahman, 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 – 6 ธันวาคม พ.ศ. 2533) ซึ่งเกิดจากคุณหญิง เนื่อง นนทนาคร ( บุตรีของหลวงบุรานุรักษ์ (เกล็บ นนทะนาคร ) เจ้าเมืองนนทบุรีและหลานพระรามัญนนทเขตต์คดี ( เนียม นนทนาคร ) นายอำเภอปากเกร็ดคนแรก ) ซึ่งเป็นผู้นำการเรียกร้องเอกราช และนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย ได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศมาเลเซียหรือ Bapa of Malaysia ผู้เจรจาให้อังกฤษคืนเอกราชให้มาเลเซีย และเป็นผู้เจรจาให้ชนชาติต่างๆ รวมกันเป็นชาติ ร่วมสร้างประเทศสหพันธ์มลายูด้วยกัน รวมทั้งยังเจรจาให้สุลต่านทั้ง 9 รัฐ สลับกันขึ้นเป็นประมุขของชาติ
สมเด็จพระราชาธิบดีฯมีพระมเหสี 2 พระองค์ พระองค์แรกสิ้นพระชนม์แล้ว พระมเหสีองค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระราชินี ประไหมสุหรี อากง ตวนกู ฮัจญะห์ ฮามินะห์
สุลตาน มุซตาซีมุ บิลลาฮ์ อับดุล ฮาลิม มุอัซซัม ชาฮ์ อิบนี อัลมาร์ฮุม สุลตาน บาดิร ชาฮ์ และทรงได้รับราชาภิเษกในฐานะสุลต่างแห่งเกดะห์ต่อจากพระราชบิดา สุลตาน บาดิร ชาฮ์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2501 ในฐานะสุลต่านแห่งเกดะห์
กรกฎาคม พ.ศ. 2513 เมื่อมีการแต่งตั้ง ยังดี เปอร์ตวน อากง ประมุขแห่งประเทศมาเลเซีย พระองค์ใหม่ ในฐานะที่ทรงเป็นสุลต่านแห่งเกดะห์แล้ว ตามลำดับวาระการขึ้นครองราชย์ ทำให้ทรงเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียพระองค์ที่ 5 ต่อจากสุลตาน นาซีรุดดิน แห่งรัฐตรังกานูและเป็นพระมหากษัตริย์จนครบวาระสมัย 5 ปี
ธันวาคม พ.ศ. 2554 ทรงได้รับการบรมราชาภิเษกเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียพระองค์ที่ 14 อีกครั้ง ต่อจากสุลต่าน มีซาน ไซนัล อาบิดีน แห่งรัฐตรังกานู นับเป็นสุลต่านพระองค์แรก ที่ได้ดำรงพระอิสริยยศนี้ถึงสองครั้ง พระองค์นับเป็น ลำดับที่ 3 ของกษัตริย์ที่ครองราชสมบัติยาวนานที่สุดของโลกในปัจจุบัน โดยมีพระราชดำรัสในพิธีบรมราชาภิเษกตอนหนึ่งว่า
กษัตริย์ถือเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชา และปวงประชาถือเป็นเสาค้ำจุนของกษัตริย์ หน้าที่สำคัญที่สุดของกษัตริย์คือจะต้องทำให้แผ่นดินไม่มีความชั่วร้ายและการทำลายล้าง ให้บังเกิดขึ้นแก่ปวงชนในประเทศ
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านตวนกู_อับดุล_ฮาลิม_มูอัซซอม_ชาห์